อ่านข้อเท็จจริงและเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก รวมทั้งการขึ้นเขาครั้งแรกในอเมริกาโดยจิม วิตเทคเกอร์; เที่ยวบินแรกเหนือเอเวอเรสต์ในปี 2476; ธรณีวิทยา ภูมิอากาศ และธารน้ำแข็งของยอดเขาเอเวอเรสต์ และคำตอบสำหรับคำถาม: Mount Everest เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกจริงหรือ?
Mount Everest เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกจริงหรือ?
Mount Everest เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกจริงหรือ? มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับคำจำกัดความของคุณว่าอะไรคือภูเขาที่สูงที่สุด ยอดเขาเอเวอเรสต์ วัดจากระดับน้ำทะเล 29,035 ฟุตโดย อุปกรณ์กำหนดตำแหน่งทั่วโลก (GPS) บนยอดเขาในปี 2542 เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกจากระดับน้ำทะเล
อย่างไรก็ตาม นักภูมิศาสตร์บางคนมองว่า Mauna Kea สูง 13,976 ฟุตบนเกาะฮาวายเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก เนื่องจากมันสูง 33,480 ฟุตเหนือพื้นมหาสมุทรแปซิฟิก
ถ้าเอาภูเขาที่สูงที่สุดไปเป็นจุดที่สูงที่สุดบนเส้นรัศมีจากศูนย์กลางโลกแล้ว 20,560 ฟุต ชิมโบราโซภูเขาไฟที่อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรในเอกวาดอร์ 98 ไมล์ เอาชนะได้ตั้งแต่ยอดเขาสูง 7,054 ฟุตจากใจกลางโลกมากกว่า Mount Everest ทั้งนี้เพราะว่าโลกแบนที่ขั้วเหนือและขั้วใต้และนูนกว้างที่
ธารน้ำแข็ง Mount Everest
ยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกผ่าโดย ธารน้ำแข็ง เข้าไปในพีระมิดขนาดใหญ่ที่มีหน้าสามด้านและสันเขาหลักสามแห่งทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกของภูเขา ธารน้ำแข็งหลักสี่แห่งยังคงสกัดยอดเขาเอเวอเรสต์: ธารน้ำแข็ง Kangshung ทางตะวันออก; ธารน้ำแข็งรองบักตะวันออกทางตะวันออกเฉียงเหนือ; ธารน้ำแข็งรองบักทางทิศเหนือ; และธารน้ำแข็งคุมบูทางทิศตะวันตกและทิศตะวันตกเฉียงใต้
ภูมิอากาศ Mount Everest
Mount Everest มีสภาพอากาศที่รุนแรง อุณหภูมิยอดไม่เคยสูงกว่าจุดเยือกแข็งหรือ 32° F (0 ° C) อุณหภูมิยอดสูงสุดในเดือนมกราคมเฉลี่ย -33° F (-36° C) และสามารถลดลงถึง -76° F (-60° C) ในเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิยอดเฉลี่ยอยู่ที่ -2° F (-19° C)
ธรณีวิทยา Mount Everest
ภูเขาเอเวอร์เรส ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นจุ่มเบา ๆ ของ หินทราย, หินดินดาน, หินโคลน, และหินปูน, แปรสภาพเป็นหินอ่อน, gneiss, และ schist ชั้นหินตะกอนบนสุดถูกสะสมไว้ที่ด้านล่างของทะเลเทตริสเมื่อกว่า 400 ล้านปีก่อน ซากดึกดำบรรพ์ในทะเลจำนวนมากถูกพบในการก่อตัวของหินบนยอดนี้ เรียกว่าการก่อตัวของโคโมลังมา มันถูกวางลงบนพื้นทะเลที่อาจอยู่ใต้พื้นผิวมหาสมุทรประมาณ 20,000 ฟุต ความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างจุดที่หินวางอยู่บนพื้นทะเลกับยอดเขาเอเวอเรสต์ในปัจจุบันคือเกือบ 50,000 ฟุต!
2476: เที่ยวบินแรกเหนือยอดเขาเอเวอเรสต์
ในปี ค.ศ. 1933 นักสำรวจของอังกฤษทำการบินครั้งแรกเหนือยอดเขาเอเวอเรสต์ด้วยเครื่องบินสองลำที่ดัดแปลงด้วยเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ เสื้อผ้าที่อุ่น และระบบออกซิเจน การเดินทางด้วยเที่ยวบินฮูสตัน-เมาท์เอเวอเรสต์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากเลดี้ฮูสตันผู้แปลกประหลาด เกี่ยวข้องกับเครื่องบินสองลำ ได้แก่ Westland PV3 รุ่นทดลองและ Westland Wallace
เที่ยวบินหลักมีขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน หลังจากเที่ยวบินแรกโดยเครื่องบินสอดแนมเปิดเผยว่าเอเวอเรสต์ไม่มีเมฆ แม้ว่าจะมีลมพัดแรงก็ตาม เครื่องบินดังกล่าว ซึ่งประจำการอยู่ที่ปูร์เนีย บินไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 160 ไมล์ไปยังภูเขาที่ซึ่งพวกเขาถูกลมพัดไม่แน่นอน ซึ่งทำให้เครื่องบินตก ทำให้ต้องปีนขึ้นไปเหนือยอดเขาเอเวอเรสต์แทบไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ภาพที่ถ่ายเหนือภูเขานั้นน่าผิดหวังเพราะช่างภาพคนหนึ่งสลบไปจาก ขาดออกซิเจน เมื่อระบบออกซิเจนล้มเหลว
เที่ยวบินที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน นักบินใช้ความรู้ที่ได้รับจากคนแรกเพื่อเข้าใกล้และบินเหนือเอเวอเรสต์ได้สำเร็จอีกครั้ง David McIntyre หนึ่งในนักบินอธิบายเที่ยวบินบนยอดเขาในเวลาต่อมาว่า และพุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยความเร็ว 120 ไมล์ต่อชั่วโมง ดูเหมือนจะเกือบอยู่ข้างใต้เรา แต่ไม่ยอมให้ถูก ข้างใต้. หลังจากเวลาที่ดูเหมือนไม่มีสิ้นสุด มันก็หายไปใต้จมูกของเครื่องบิน”
1963: การขึ้นสู่อเมริกาครั้งแรกโดย Jim Whittaker
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2506 เจมส์ "บิ๊กจิม" วิตเทเกอร์ จากซีแอตเทิล วอชิงตัน และผู้ก่อตั้ง REI กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ยืนบนยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาย 19 คนของสหรัฐฯ ที่นำโดยนอร์แมน ไดเรนเฟิร์ธ นักปีนเขาที่เกิดในสวิส Whittaker และ Sherpa Nawang Gombu หลานชายของ เทนซิง นอร์เกย์ได้ทำการขึ้นเอเวอเรสต์ครั้งที่สี่
นักปีนเขาสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งกับวิตเทเกอร์และนาวัง และอีกกลุ่มกับไดเรนเฟิร์ธและอังดาวา เตรียมพร้อมเหนือพ.อ.ใต้เพื่อพยายามประชุมสุดยอด อย่างไรก็ตาม ลมแรงทำให้ทีมที่สองต้องหยุดชะงัก แต่ Whittaker ตัดสินใจที่จะดันขึ้นไปข้างบนด้วยออกซิเจนที่จำกัด ทั้งคู่ต่อสู้ดิ้นรนในสายลม โดยเก็บขวดอ็อกซิเจนขนาด 13 ปอนด์ไว้ครึ่งทาง พวกเขาผ่าน South Summit แล้วปีนขึ้นไปบน Hillary Step Whittaker นำขึ้นเนินหิมะสุดท้าย ออกซิเจนหมดลง 50 ฟุตใต้ยอดเขา เขารั้งกอมบุไว้และพวกเขาพยายามดิ้นรนเพื่อไปยังยอดเขาด้วยกัน พวกเขาใช้เวลา 20 นาทีบนยอดเขาโดยไม่มีออกซิเจน จากนั้นจึงเริ่มเดินทางด้วยลมแรงพัดลงมาที่ขวดเสริมของพวกเขา หลังจากดูดออกซิเจนเข้าไป พวกเขาก็รู้สึกสดชื่นและลงจากที่สูง Whittaker เหนื่อยมากจนเผลอหลับไปบนถุงนอนโดยที่ยังใช้ตะปูอยู่
ต่อมา จิม วิตเทเกอร์ ถูกเลี้ยงในขบวนพาเหรดที่ซีแอตเติล ประธานาธิบดีเคนเนดี ในสวนกุหลาบ และได้รับเลือกให้เป็นบุคคลแห่งปีด้านกีฬาโดย ซีแอตเทิลโพสต์อัจฉริยะ.
เรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยอดเขาเอเวอเรสต์ ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก รวมถึงการปีนเขาครั้งแรกของอเมริกา เที่ยวบินแรกเหนือเอเวอเรสต์; ภูเขาเอเวอเรสต์ธรณีวิทยาและธารน้ำแข็ง และเป็นภูเขาเอเวอร์เรสต์ที่สูงที่สุดในโลกจริงๆ
